วันอาทิตย์ที่ 27 มิถุนายน พ.ศ. 2553

การทำภาพถ่ายให้เป็นภาพวาด

การทำภาพถ่ายให้เป็นภาพวาดจาก cs5


1.นำรูปที่ต้องการแต่งมาวางไว้ในcs5แล้วcopy layer ขึ้นมา 1 layer
2. คลิ๊ก Filter-Stylize-Find Edge
3.แล้วจากนั้นก็ไปที่ Filter-Blur-Gaussian Blur
4.ปรับภาพได้ตามความเหมาะสมแล้วก็จะได้ภาพอย่างที่เห็นครับ

วันเสาร์ที่ 26 มิถุนายน พ.ศ. 2553

การทำภาพ SKETCH จาก Cs5




1.นำภาพที่ต้องการทำลงมา
2.ทำการcopy layer โดยคลิกที่ backgrou
3.จากนั้นก็กด(Shift+Ctrl+U) ภาพก็จะเป็นขาวดำ
4.หลังจากนั้นให้เรา Copy Layer ของภาพที่เป็นภาพขาวดำขึ้นมา  Layer แล้วก็กด (Ctrl + I)
5.แล้วก็กด Layer ที่ copy มาหลังจากนั้นเปลี่ยนโหมดของภาพเป็น Color Dodge
6. หลังจากนั้นใส่ Effect Filter - Blur -Gaussian Blur ปรับตามที่เราต้องการ เราก็จะได้ภาพตามรูปที่เห็นนี้
 
การทำภาพสีน้ำจาก cs5


1.นำรูปที่เราต้องการแต่งมาไว้ในcs5จากนั้นไปที่เคื่องมือ Texture - Texturizer
2.จากนั้นก็ปรับความคมชัดของภาพได้ตามความพอใจ 


การทำกรอบรูปจาก cs5



1.นำภาพที่ต้องการทำกรอบรูปมาใส่ใน cs5 แล้วหากรอบรูปที่ต้องการมาครับ
2.ใช้เครื่องมือ Magic Wand Tool .นการตัดภาพหลังออก
3.แล้วนำรูปของเรามาจัดให้พอดีกับกรอบแล้วนำวางใส่ครับแล้วคุณก็จะได้ดั้งภาพครับ




การทำฟองอากาศ จากcs5




1.สร้างหน้ากระดาษขึ้นมา 1 ชิ้นขนาด 300x300 ครับ
2.จากนั้นก็เทสีเทา โดยการคลิ๊กที่เครื่องมือเทสี
3.ต่อไปก็คลิ๊กที่แถบเมนูด้านบน เลือก Filter - Render - Lens Flare
4.ต่อไปก็คลิ๊กที่แถบเมนูด้านบน เลือก Filter - Distort - Polar Coordinates และเลือก Polar to Rectangular
5.พอจากนั้นแล้วก็ปลดล็อค Background โดยการดับเบิ้ลคลิ๊กที่ Layer
6.ต่อไปก็กดเลือก Elliptical Marquee Tool กด Shift ค้าง แล้วลากเม้าส์เพื่อสร้าง Selection วงกลมครับ
7.กด Ctrl + Shift + i เพื่อกลับด้าน Selection แล้วกด Delete เพื่อลบพื้นที่ที่อยู่ด้านหลังออกครับ

8.เปลี่ยนสีให้เข้ากับภาพพื้นหลัง โดยกด Ctrl + u แล้วปรับสีตามที่ต้องการครับ

วันพฤหัสบดีที่ 24 มิถุนายน พ.ศ. 2553



การทำภาพรุ้ง จาก cs5


1.นำรูปที่ต้องการทำรุ้งนั้นมาใส่ในphotoshop cs5
2.จากนั้นคลิกไปที่ gradient tool แล้วๆไปที่ tool edit gradient จากนั้นไปที่ special effect
3.จากนั้นก้ไปเลือกแบบที่ รุ้ง แล้วลากจากล่างขึ้นไปด้านบน
4.จากนั้นปรับรุ้งให้จางโดยไปที่ opacity
5.แล้วก็จะได้ภาพดั้งที่เห็นครับ
การทำภาพซ้อนจาก cs5


1.นำภาพทั้ง2ภาพที่จะทำการซ้อนมาใส่ใน cs5 จากนั้น เราก็ เปลี่ยนภาพที่จะมาวางทับกันภาพนั้นให้เปลี่ยนเป็น Layer
2.พอวางซ้อนกันแล้วให้เข้าไปที่ Layer +Layer Mask จากนั้นใช้เครื่องมือที่มีชื่อว่า Gradient Tool ทำสีให้เป็น ขาวดำ แล้วกดลากใส่ เราก็ จะได้ภาพซ้อนที่เป็นดังภาพนี้ ครับ

การทำภาพ สายฟ้า







การทำภาพฟ้าผ่า จาก cs5




1.สร้างหน้าเอกสารใหม่ขึ้นมา ขนาดเท่าไหร่ก็ได้ครับ โดยปรับกระดาษให้เป็น International paper
2.ใช้เครื่องมือ Gradient Tool ลากจากซ้ายไปขวา ให้เลือกรูปแบบที่เป็นการไล่โทนจากซ้ายไปขวานะครับ ซึ่งตัวเลือกตัวนี้ จะอยู่ทางซ้ายของเรา แต่ต้องทำให้สีนั้นเป็นขาวดำก่อน
3.เลือกเมนูด้านบนโดยใช้Filter>Render>Difference แล้วก็กดกด Ctrl+I เป็นการ Invert สีโดยภาพที่ได้จะกลายเป็นสีขาวมากกว่าสีดำครับ
4.กด Ctrl+L เพื่อปรับ Level โดยปรับค่า Level ของ ภาพ ตรงช่อง Inputs Level ดังนี้ครับ 208, 0.40, 255
5.จากนั้นเราก็ปรับภาพโดยการกด Ctrl+U และก็ปรับสีได้ตามใจชอบ
6..เพียงเท่านี้ เราก็จะได้ภาพฟ้าผ่าที่ทำขึ้นเอง ง่าย สะดวก และรวดเร็วครับ ลองนำเทคนิคนี้ไปใช้กันดูนะครับ

การทำภาพพื้นหลังจาก cs5











การทำภาพพื้นหลัง

1.นำรูปภาพที่เราต้องการทำภาพพื้นหลังมาใส่ใน cs5
2.เริ่มการตัดภาพโดยใช่เครื่องมือMegnatic Lasso Tool
3.จากนั้นไปที่Edit - Fill- และกด ok
4.คุณก็จะได้ดั้งภาพครับ

วิธีการลง windows

-ขั้นตอนแรก นำแผ่นwindows เข้าเครื่อง แล้วก็กด restart จากนั้นรอให้หน้าจอขึ้นรูปให้เรา setup โดยกด F10 หรือ F9

-ขั้นตอนที่2 ไปยังคำว่าBoot และสังเกตคำว่า Boot  Device และก็กดเข้าไป  ให้เปลียนคำตรง First Boot ให้เปลียนคำตรงนั้นให้เป็น CD-ROM และเปลี่ยนคำตรงที่มีชื่อว่า Second Boot Device ให้เปลี่ยนเป็น Hard Disk จากนั้นก็กด F 10 แล้วมันจะขึ้นว่าคุณต้องการ Save มันไว้หรือไม่ ให้คุณกด OK 

-ขั้นตอนที่3 จากนั้นคอมจะ ติดตั้ง windows ตัวเองให้เรารอจนหน้าจอเราขึ้นจอมาว่า windows xp profersional setup ให้ เรากด Ese 1 ครั้ง แล้วจอคอมเราจะขึ้นให้เราเลือกว่าจะ ลบ หรือสร้าง หรือ ติดตั้ง
ถ้าคอมเรามีไวรัสอยู่ แนะนำให้กด D หริอ ลบ Drive ส่วนมากเราจะเก็บงานไว้ที่ Drive d เพราะฉะนั้นเราจึงควรลบDrive c พอเราลบ Drive c แล้วให้กดสร้างโดยกด ตัว c จากนั้นกด Enter เลยนะครับ แล้วจอเราจะขึ้นให้เราเลือกว่า จะติดตั้งแบบ เร็วหรือไม่เร็ว ให้เราสังเกตตรงคำที่ว่า ซึ่งหมายความว่าติดตั้งแบบเร็วนะคราบ

-ขั้นตอนที่4 ให้เรารอจนหน้าจอเราขึ้นมาว่าให้กรอกพาสเวิล อันนี้แล้วแต่คุณว่าต้องการพาสเวิลหรือไม่นะครับ แล้วพอหลังจากนั้นกด Next พอหลังจากนั้นจะขึ้นรูป โล่ สีเขียว สีแดงขึ้นมาซึ่งหมายความตามสีว่า สีเขียวหมายถึงคุณต้องการอัพเดฟ Windows ตัวนี้หรือไม่ ส่วนสีแดงคือ ไม่ต้องการให้ทำการอัพเดฟ ซึ่งผมแนะนำว่าควรเลือกสีแดงนะครับ และกด Next

-ขั้นตอนที่5 ให้เรารอจน จอขึ้นมาให้เรากรอกชื่อของคอมพิวเตอร์ อันนี้ให้กรอกตามความต้องการของท่านนะครับ จากนั้นให้เรารอจนหน้าจอเราเส็จ จากนั้นคุณจะเห็นว่าจอของคุณนั้นมีแต่ Recycle Bin ให้คุณคลิกเมาส์ properties ให้คุณเลือกหัวข้อไปที่ Desktop แล้วเลื่อนมาข้างล่างจะเจอคำว่า
Customize Desktop แล้วคุณเลือกเอาว่าจะเอามาหมดหรือไม่หมดก็ได้ ครับ

-และนี้คือการลง windowsครับ ขอบคุณทุกท่านที่มารับชม blogของกระผมนะครับขอบคุณครับ*-*

วันจันทร์ที่ 21 มิถุนายน พ.ศ. 2553

การทำภาพ LoMo จาก Cs5


1.เลือกภาพวิวที่ต้องการมาทน LoMo


2.สร้าง Background ขึ้นมาอีกหนึ่ง โดยคลิกขวาที่ Background คลิกที่ Dvplicate Layer

3.จะได้ Background copy จากนั้นไปที่เครื่องมือ Rectargvlar Marquee Tool  ปรับขอบเป็น 35 px

4..ลากใส่รูปให้เป็นคล้ายกรอบรูป แล้วกด Ctrl-Shift-I  จากนั้นก็กด Deselect

5.ใช้เครื่องมือ Paint Bucket Tool เพื่อเติมสี  ทำสีให้เป็น ขาว-ดำ และตกแต่งตามความชอบ

6.คุณก็จะได้ภาพ LoMo ดั้งภาพที่เห็นครับ















ทำให้background ให้เป็นภาพเบลอ 




1.เลือกรูปของเราที่ต้องการจะทำการเบลอรูป


2.กด Ctrl + J เพื่อเพิ่ม Layer และจากนั้นไปที่ Fiter-Blur-Gaussian Blur

3.ปรับระดับความเบลอของรูปตามที่เราต้องการ

5.จากนั้นคลิกตรง  Layer ที่ copy มา แล้วไปที่เครื่องมือ  History Brush Tool

6.จากนั้นปรับทำสีให้เป็น ขาว ดำ  จากนั้นก็คริกใส่ตรงรูปที่เราไม่ต้องการเบลอให้ชัด

9.ก็จะได้ภาพเบลอด้านหลังภาพดังรูป ครับ












ภาพจิกซอจาก cs5


1.ไปที่ File>Open แล้วเลือกรูปที่ตนเองต้องการ
2.กด Ctrl+J เพื่อเพิ่ม Layer
3.กดที่คำว่า Styles ที่อยู่หัวมุมขวาและเลือกรูปที่มีชื่อว่า Puzzle(image)
4.จากนั้นปรับขนาดรูปให้ไปที่ opacity ให้เป็นขนาด 50%
5. แล้วไปดับเบิ้ลคลิกที่ Back ground ที่เราแต่งมันจะขึ้นเป็น Layer Style
6.ให้ไปคลิกที่ Texture ไปปรับที่ Scale และ Depth ตามความเหมาะสมของรูป
7.ก็จะได้ภาพเป็นจิ๊กซอ คราบ

วันศุกร์ที่ 18 มิถุนายน พ.ศ. 2553






ทำภาพฉีกจาก  PhotoShop  CS5






ขั้นตอนที่ 1. เปิดภาพที่เราต้องการแต่งออกมาใน photoshop




ขั้นตอนที่ 2. ใช้เครื่องมือที่มีชื่อว่า Lasso Tool  แล้วเริ่มการตัดเลย
โดยเลือกส่วนที่เราต้องการให้ภาพนั้นมีรอยฉีกนะ ครับ




ขั้นตอนที่ 3 . สร้างหน้ากระดาษขึ้นมานะคราบโดยเลือกขนาดของ Layer ตามขนาดที่ตัวเองชอบนะคับ







ขั้นตอนที่ 4. นำภาพที่ตัดแล้ว มาใส่ใน Layer ใหม่ที่เราสร้างนะคับ
จากนั้นจัดขนาดของภาพตามที่เราต้องการ ครับ





ขั้นตอนที่ 5. ลงสี Background โดย นำเมาส์ไปคลิกที่ Backgroud ที่อยู่ข้างล่างภาพ
จากนั้นไปที่เครื่องมือ Gradient Tool แล้วเลือกสีตามใจชอบ
แล้วคุณก็จะได้ภาพที่เหมือนภาพฉีกที่คุณนั้นนำมาซ่อมแซม

วันเสาร์ที่ 12 มิถุนายน พ.ศ. 2553








Massimo Zucchi นักออกแบบอัญมณีชาวอิตาลีได้ดีไซน์ตู้เย็นไฮเทคฯ Zipel e-diary ให้กับซัมซุง โดยเพิ่มคุณสมบัติการทำงานต่างๆ ที่ตู้เย็นทั่วไปไม่มีเข้าไปมากมาย โดยเฉพาะหน้าจอสัมผัสขนาด 10 นิ้วที่มาพร้อมกับซอฟต์แวร์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไร้สาย Wi-fi ซึ่งทำให้เจ้าของตู้เย็นรุ่นนี้สามารถรับทราบข่าวสาร พยากรณ์อากาศประจำวัน และดาวน์โหลดอัลบั้มภาพที่ชื่นชอบ โดยอัพเดตผ่านทางอินเทอร์เน็ต
Zipel e-diary เป็นตู้เย็นขนาด 25 คิวบ์สามารถรองรับอาหารสดได้มากมาย ดีไซน์สองประตู ด้านหน้าประดับด้วยแสง LED และออกแบบให้ใช้พลังงานอย่างสมดุลย์ โดยมันสามารถลดระดับการใช้พลังงานไฟฟ้าลงเหลือแค่ 32 kwh ต่อเดือน จะว่าไปแล้วมันคล้ายๆ ของตู้เย็นเน็ตไร้สายของ Electrolux ที่เคยเผยโฉมออกมาก่อนหน้านี้เหมือนกัน สนนราคาของ Zipel e-diary อยู่ที่ 25 ล้านวอน หรือประมาณ70,000 บาท










ที่เห็นอยู่นี้เป็นตู้เย็นที่ออกแบบมาเป็นพิเศษสำหรับผู้บริโภคในเกาหลี ชื่อว่า Zipel e-diary จากบริษัท Samsung โดยนอกจากมันจะมีดีไซน์ที่เรียบหรูแล้ว ยังมาพร้อมกับจอสัมผัสที่เชื่อมต่อเน็ตไร้สายได้ด้วย...Massimo Zucchi นักออกแบบอัญมณีชาวอิตาลีได้ดีไซน์ตู้เย็นไฮเทคฯ Zipel e-diary ให้กับซัมซุง โดยเพิ่มคุณสมบัติการทำงานต่างๆ ที่ตู้เย็นทั่วไปไม่มีเข้าไปมากมาย โดยเฉพาะหน้าจอสัมผัสขนาด 10 นิ้วที่มาพร้อมกับซอฟต์แวร์เชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตไร้สาย Wi-fi ซึ่งทำให้เจ้าของตู้เย็นรุ่นนี้สามารถรับทราบข่าวสาร พยากรณ์อากาศประจำวัน และดาวน์โหลดอัลบั้มภาพที่ชื่นชอบ โดยอัพเดตผ่านทางอินเทอร์เน็ตZipel e-diary เป็นตู้เย็นขนาด 25 คิวบ์สามารถรองรับอาหารสดได้มากมาย ดีไซน์สองประตู ด้านหน้าประดับด้วยแสง LED และออกแบบให้ใช้พลังงานอย่างสมดุลย์ โดยมันสามารถลดระดับการใช้พลังงานไฟฟ้าลงเหลือแค่ 32 kwh ต่อเดือน จะว่าไปแล้วมันคล้ายๆ ของตู้เย็นเน็ตไร้สายของ Electrolux ที่เคยเผยโฉมออกมาก่อนหน้านี้เหมือนกัน



ความคิดสร้างสรรค์ (creative thinking)


ความคิดสร้างสรรค์ คือ กระบวนการคิดของสมองซึ่งมีความสามารถในการคิดได้หลากหลายและแปลกใหม่จากเดิม โดยสามารถนำไปประยุกต์ทฤษฎี หรือหลักการได้อย่างรอบคอบและมีความถูกต้อง จนนำไปสู่การคิดค้นและสร้างสิ่งประดิษฐ์ที่แปลกใหม่หรือรูปแบบความคิดใหม่ นอกจากลักษณะการคิดสร้างสรรค์ดังกล่าวนี้แล้ว ยังมีสามารถมองความคิดสร้างสรรค์ในหลาย ซึ่งอาจจะมองในแง่ที่เป็นกระบวนการคิดมากกว่าเนื้อหาการคิด โดยที่สามารถใช้ลักษณะการคิดสร้างสรรค์ในมิติที่กว้างขึ้น เช่นการมีความคิดสร้างสรรค์ในการทำงาน การเรียน หรือกิจกรรมที่ต้องอาศัยความคิดสร้างสรรค์ด้วย อย่างเช่น การทดลองทางวิทยาศาสตร์ หรือการเล่นกีฬาที่ต้องสร้างสรรค์รูปแบบเกมให้หลากหลายไม่ซ้ำแบบเดิม เพื่อไม่ให้คู่ต่อสู่รู้ทัน เป็นต้น ซึ่งอาจกล่าวได้ว่าเป็นลักษณะการคิดสร้างสรรค์ในเชิงวิชาการ แต่อย่างไรก็ตาม ลักษณะการคิดสร้างสรรค์ต่างๆ ที่กล่าวนั้นต่างก็อยู่บนพื้นฐานของความคิดสร้างสรรค์ โดยที่บุคคลสามารถเชื่อมโยงนำไปใช้ในชีวิตประจำวันได้ดี



ในการสอนของอาจารย์เพื่อพัฒนาความคิดสร้างสรรค์ ควรจัดการเรียนการสอนที่ใช้วิธีการที่เหมาะสม ดังนี้



1. การสอน (Paradox) หมายถึง การสอนเกี่ยวกับการคิดเห็นในลักษณะความคิดเห็นที่ขัดแย้งในตัวมันเอง ความคิดเห็นซึ่งค้านกับสามัญสำนึก ความจริงที่สามารถเชื่อถือหรืออธิบายได้ ความเห็นหรือความเชื่อที่ฝังใจมานาน ซึ่งการคิดในลักษณะดังกล่าว นอกจากจะเป็นวิธีการฝึกประเมินค่าระหว่างข้อมูลที่แท้จริงแล้ว ยังช่วยให้คิดในสิ่งที่แตกต่างไปจากรูปแบบเดิมที่เคยมี เป็นการฝึกมองในรูปแบบเดิมให้แตกต่างออกไป และเป็นส่งเสริมความคิดเห็นไม่ให้คล้อยตามกัน (Non – Conformity) โดยปราศจากเหตุผล ดังนั้นในการสอนอาจารย์จึงควรกำหนดให้นักศึกษารวบรวมข้อคิดเห็นหรือคำถาม แล้วให้นักศึกษาแสดงทักษะด้วยการอภิปรายโต้วาที หรือแสดงความคิดเห็นในกลุ่มย่อยก็ได้



2. การพิจารณาลักษณะ (Attribute) หมายถึง การสอนให้นักศึกษา คิดพิจารณาลักษณะต่าง ๆ ที่ปรากฏอยู่ ทั้งของมนุษย์ สัตว์ สิ่งของ ในลักษณะที่แปลกแตกต่างไปกว่าที่เคยคิด รวมทั้งในลักษณะที่คาดไม่ถึง



3. การเปรียบเทียบอุปมาอุปมัย (Analogies) หมายถึง การเปรียบเทียบสิ่งของหรือสถานการณ์การณ์ที่คล้ายคลึงกัน แตกต่างกันหรือตรงกันข้ามกัน อาจเป็นคำเปรียบเทียบ คำพังเพย สุภาษิต



4. การบอกสิ่งที่คลาดเคลื่อนไปจากความเป็นจริง (Discrepancies) หมายถึง การแสดงความคิดเห็น บ่งชี้ถึงสิ่งที่คลาดเคลื่อนจากความจริง ผิดปกติไปจากธรรมดาทั่วไป หรือสิ่งที่ยังไม่สมบูรณ์



5. การใช้คำถามยั่วยุและกระตุ้นให้ตอบ (Provocative Question) หมายถึงการตั้งคำถามแบบปลายเปิดและใช้คำถามที่ยั่วยุ เร้าความรู้สึกให้ชวนคิดค้นคว้า เพื่อความหมายที่ลึกซึ้งสมบูรณ์ที่สุดเท่าที่จะเป็นได้



6. การเปลี่ยนแปลง (Example of change) หมายถึง การฝึกให้คิดถึงการเปลี่ยนแปลง



ดัดแปลงการปรับปรุงสิ่งต่าง ๆ ที่คงสภาพมาเป็นเวลานานให้เป็นไปในรูปอื่น และเปิดโอกาสให้เปลี่ยนแปลงด้วยวิธีการต่าง ๆ อย่างอิสระ



7. การเปลี่ยนแปลงความเชื่อ (Exchange of habit) หมายถึง การฝึกให้นักศึกษาเป็นคนมีความยืดหยุ่น ยอมรับความเปลี่ยนแปลง คลายความยึดมั่นต่าง ๆ เพื่อปรับตนเข้ากับสภาพแวดล้อมใหม่ ๆ ได้ดี



8. การสร้างสิ่งใหม่จากโครงสร้างเดิม (An organized random search) หมายถึง การฝึกให้นักศึกษารู้จักสร้างสิ่งใหม่ กฎเกณฑ์ใหม่ ความคิดใหม่ โดยอาศัยโครงสร้างเดิมหรือกฎเกณฑ์เดิมที่เคยมี แต่พยายามคิดพลิกแพลงให้ต่างไปจากเดิม



9. ทักษะการค้นคว้าหาข้อมูล (The skill of search) หมายถึง การฝึกเพื่อให้นักศึกษารู้จักหาข้อมูล



10. การค้นหาคำตอบคำถามที่กำกวมไม่ชัดเจน (Tolerance for ambiguity) เป็นการฝึกให้นักศึกษามีความอดทนและพยายามที่จะค้นคว้าหาคำตอบต่อปัญหาที่กำกวม สามารถตีความได้เป็นสองนัย ลึกลับ รวมทั้งท้าทายความคิด



11. การแสดงออกจากการหยั่งรู้ (invite expression) เป็นการฝึกให้รู้จักการแสดงความรู้สึก และความคิด ที่เกิดจากสิ่งที่เร้าอวัยวะรับสัมผัสทั้งห้า



12. การพัฒนาตน (adjustment for development) หมายถึง การฝึกให้รู้จักพิจารณาศึกษาดูความ ล้มเหลว ซึ่งอาจเกิดขึ้นโดยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ แล้วหาประโยชน์จากความผิดพลาดนั้นหรือข้อบกพร่องของตนเองและผู้อื่น ทั้งนี้ใช้ความผิดพลาดเป็นบทเรียนนำไปสู่ความ-สำเร็จ



13. ลักษณะบุคคลและกระบวนการคิดสร้างสรรค์ (creative person and creative) หมายถึง การศึกษาประวัติบุคคลสำคัญทั้งในแง่ลักษณะพฤติกรรมและกระบวนการคิดตลอดจนวิธีการ และประสบการณ์ของบุคคลนั้น



14. การประเมินสถานการณ์ (a creative reading skill) หมายถึง การฝึกให้หาคำตอบโดยคำนึงถึงผลที่เกิดขึ้นและความหมายเกี่ยวเนื่องกัน ด้วยการตั้งคำถามว่าถ้าสิ่งเกิดขึ้นแล้วจะเกิดผลอย่างไร



15. พัฒนาทักษะการอ่านอย่างสร้างสรรค์ (a creative reading skill) หมายถึง การฝึกให้รู้จักคิดแสดงความคิดเห็น ควรส่งเสริมและให้โอกาสเด็กได้แสดงความคิดเห็นและความรู้สึกต่อเรื่องที่อ่านมากกว่าจะมุ่งทบทวนข้อต่างๆ ที่จำได้หรือเข้าใจ



16. การพัฒนาการฟังอย่างสร้างสรรค์ (a creative listening skill ) หมายถึง การฝึกให้เกิดความรู้สึกนึกคิดในขณะที่ฟัง อาจเป็นการฟังบทความ เรื่องราวหรือดนตรี เพื่อเป็นการศึกษาข้อมูล ความรู้ ซึ่งโยงไปหาสิ่งอื่น ๆ ต่อไป



17. พัฒนาการเขียนอย่างสร้างสรรค์ ( a creative writing skill ) หมายถึง การฝึกให้แสดงความคิด ความรู้สึก การจินตนาการผ่านการเขียนบรรยายหรือพรรณนาให้เห็นภาพชัดเจน



18. ทักษะการมองภาพในมิติต่างๆ (Visualization skill) หมายถึง การฝึกให้แสดงความรู้สึกนึกคิดจากภาพในแง่มุม แปลกใหม่ ไม่ซ้ำเดิม




สรุป    ความคิดสร้างสรรค์

คือ ความคิดที่ดัดแปลงจากของเดิมหรือดัดแปลงจาก สิ่งที่มี อยู่แล้ว แล้วนำมา สร้างสรรค์ปฏิบัติแสดงออกมาให้เป็นผลงานที่ดี บรรจุความคิดใหม่ เป็นรูปทรงใหม่หรือมีหน้าที่ใหม่ หรือนำไปใช้ในแง่ใหม่ให้มีประสิทธิภาพสูงกว่าเดิมได้ หรือเป็นการสร้างชิ้นงานขึ้นใหม่ให้ดีกว่าที่มีอยู่เดิม


ความคิดสร้างสรรค์เป็นบุคลิกนิสัยอย่างหนึ่ง ซึ่งอาจเกิดจากวิธีการเลี้ยงดูในบ้านกระบวนการเรียนรู้ในโรงเรียน การ ใช้ชีวิตในสังคม มีความสำคัญและมีประโยชน์กับคนทุกคน ถ้าพิจารณาในแง่นามธรรม คือ การสร้างสรรค์ทางความคิด ในตัวของมันเอง ก็จะพบว่าคนที่มีความคิดสร้างสรรค์นั้น จะเป็นผู้มีคุณสมบัติที่ดี มีพฤติกรรมที่เป็นไปในทางที่ดี เช่น เป็นผู้ที่เปิดใจกว้างขวางยอมรับฟังความคิดเห็นใหม่ ๆ ไม่ได้นึกว่าตัวเองเป็นฝ่ายถูกเสมอ ไม่เอาตัวเองเป็นจุดศูนย์กลางใน การพิจารณาคนอื่น ชอบเก็บสะสมความรู้ หมั่นค้นคว้าวิจัยสืบสวนหาความจริงในสิ่งต่าง ๆ เป็นคนที่มีเหตุผลและคุณสมบัต ิเหล่านี้ก็จะส่งผลและคุณสมบัต ิเหล่านี้ก็จะส่งผลให้เจ้าของประสบผลสำเร็จในชีวิต